0
Your Cart

RSV ไวรัสตัวร้ายในเด็ก

RSV

RSV เป็นโรคที่มักมีการระบาดทุก ๆ ปี มักพบในฤดูฝนถึงฤดูหนาว โดยเฉพาะในเด็กเล็กวัยอนุบาล โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี และเนื่องจากเป็นวัยเด็กเล็กทำให้มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว เพราะเด็ก ๆ มักสนุกกับการเล่น และทำให้แพร่เชื้อไปให้เพื่อน ๆ ได้ง่าย และหากเด็กที่ป่วยเป็น RSV มีอาการรุนแรงก็อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงตามมาได้

RSV คืออะไร?

   RSV เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นได้ทั้งทางเดินหายใจส่วนบนและทางเดินหายใจส่วนล่าง ทำให้เกิดภาวะหลอดลม หลอดลมฝอย และปอดอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า respiratory syncytial virus (RSV) เป็นไวรัสชนิดที่มีเปลือกหุ้ม มี 2 สายพันธ์ุ ซึ่งมีลักษณะการก่อให้เกิดโรคเหมือนกัน โรคนี้พบได้บ่อยในเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปี และอาจพบอาการรุนแรงหรือภาวะแทรกซ้อนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่คลอดก่อนกำหนดหรือเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 1 ปี

ไวรัส RSV สามารถติดต่อทางใดได้บ้าง

     ไวรัส RSV ติดต่อโดยตรงกับการสัมผัสสารคัดหลั่งต่างๆ เช่น น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ เช่น หากที่มือเรามีเชื้อ RSV จากสัมผัสกับารคัดหลั่งที่ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แล้วเรานำมือไปขยี้ตา หรือเข้าจมูกก็สามารถติดเชื้อนี้ได้โดยง่าย เชื้อ RSV สามารถมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานหลายชั่วโมงและอยู่บนมือได้นานกว่าครึ่งชั่วโมงหากไม่ได้ล้างทำความสะอาด เมื่อได้รับเชื้อมาแล้วระยะฝักตัวของโรคอยู่ที่ประมาณ 4-6 วันหลังจากได้รับเชื้อ

อาการเริ่มแรก

  • มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก
  • หายใจหอบเหนื่อย
  • เบื่ออาหาร รับประทานอาหารได้น้อยลง
  • เจ็บคอ ปวดศีรษะ (ในเด็กโตหรือผู้ใหญ่)
  • ในเด็กทารก มักจะซึมลง ร้องกวนมากกว่าปกติ

อาการที่ควรพบแพทย์

  • มีไข้สูง ไอรุนแรง
  • หายใจมีเสียงดังหวีด ซึ่งมักได้ยินเวลาหายใจออก
  • หายใจลำบากหรือหายใจเร็ว
  • หงุดหงิดง่าย หรือเซื่องซึม ไม่เล่น ไม่กิน
  • ในเด็กทารกเห็นกล้ามเนื้อหน้าอกดึงเข้าด้านในมากกว่าปกติทุกครั้งที่หายใจ หายใจสั้น และเร็ว
  • ในเด็กทารกลักษณะสีผิวเปลี่ยนไป (ตัวเขียว) เนื่องจากขาดออกซิเจน

การรักษา โรคติดเชื้อไวรัส RSV

ในปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคติดเชื้อไวรัส RSV ได้โดยตรง แต่ใช้วิธีการรักษาตามอาการ เช่น

  • การให้ยาลดไข้
  • การให้ยาแก้ไอ ละลายเสมหะ เนื่องจากในเด็กบางรายที่มีเสมหะเหนียวมาก
  • พ่นยาขยายหลอดลมผ่านทางออกซิเจนละอองฝอย
  • เคาะปอด และดูดเสมหะออก จะสามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการไอและอาการหายใจหอบเหนื่อยได้

การป้องกัน RSV

  • ล้างมือบ่อย ๆ โดยใช้สบู่ล้างมืออย่างน้อย 20 วินาที
  • สอนสุขอนามัยที่ดีให้กับเด็ก สอนวิธีการล้างมือ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า โดยเฉพาะตา จมูก และปาก
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย การไปในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน
  • ทำความสะอาดสิ่งที่ใช้ร่วมกับผู้อื่น เช่น ของใช้ ของเล่น ลูกบิดประตู
  • หากในครอบครัวหรือในสถานศึกษา มีเด็กที่มีอาการไข้หวัด ควรแยกเด็กออกจากเด็กปกติเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ
  • งดออกจากบ้านในช่วงที่ไม่สบายเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่น ๆ และควรปิดปาก ปิดจมูก เวลาไอหรือจาม
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสควันบุหรี่ เพราะอาจทำให้เกิดอาการรุนแรงในขณะที่มีการติดเชื้อไวรัส RSV ได้

ช่องทางในการติดต่อสามารถติดต่อได้ทาง

FACEBOOK

LINE

author avatar
Jenjira Chamta

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *